ฮวงจุ้ยเปิดปมองค์ท่านท้าวมหาพรหมเอราวัณ


สิ่งนี้มี...สิ่งนี้จึงเกิด... 
สิ่งนี้เป็นเหตุ... สิ่งนั้นย่อมเป็นผล...
แม้แต่องค์ท่านท้าวมหาพรหมฯ ก็ยังอยู่ในกฏจักรวาลนี้
 
เหตุสะเทือนใจที่แยกราชประสงค์ย่อมเกิดจากสิ่งนั้นมีอยู่สิ่งนี้จึงเกิด จากเหตุและผลตามหลักอิทัปปัจจยตากฏแห่งจักรวาล กฏความจริงสูงสุดของธรรมชาติที่ควบคุมทุกสิ่งทุกอย่างไว้ เมื่อช่วงห้วงเวลาเหมาะสมกฏแห่งธรรมชาติย่อมแสดงเป็นผลขึ้น แม้แต่องค์เทพพรหมคนเดินดินล้วนอยู่ในกรอบเกณฑ์กระแสพลังธรรมชาตินี้ทั้งสิ้น
 
จากมุมมองตามศาสตร์ 風水(ฮวงจุ้ย) ที่ว่าด้วยหลักแห่งความสมดุลของกระแสพลังธรรมชาติ ระบบธาตุทั้ง 5 ที่เรียกกันว่า ระบบเบญจธาตุ ธาตุดิน ธาตุทอง ธาตุน้ำ ธาตุไม้ และธาตุไฟ ซึ่งเป็นได้ทั้งวัฏจักรแห่งการก่อเกิดและการทำลาย โดยใช้สีสัน ลักษณะ รูปทรง ทิศทาง สื่อแทนความหมายของระบบธาตุต่างๆทั้ง 5 ตำแหน่ง 4 สัตว์ 四獸 (ซี๊สิ่ว) กระแสพลัง陰陽(อิมเอี๊ยง) ตลอดจนพลังดาวจรผสมระหว่างปี เดือน วัน และเวลา มาสัมพันธ์ต่อกันเป็นชนวนสะท้อนภาพปรากฏก่อเกิดสถานการณ์ต่างๆได้
 
สรรพสิ่งทั้งหลายล้วนอาศัยพื้นดินเป็นที่ตั้งพักพิง จึงนับได้ว่าธาตุดินนั้นยิ่งใหญ่ที่สุด เมื่อพลังดินเกิดการทับถมสั่งสมเป็นระยะเวลาอันยาวนาน จากกระแสพลังธาตุดินจึงก่อเกิดเป็นกระแสพลังธาตุทอง (เหล็ก โลหะ แร่ธาตุ) ด้วยการอัดแน่นเนิ่นนานเข้าก็จะถูกปลดปล่อยกระแสพลังออกมาก่อเกิดในรูปของๆเหลวต่างๆ ที่มีแร่ธาตุสารอาหารแก่พืชและต้นไม้ เปรียบเสมือนกระแสพลังธาตุน้ำย่อมหล่อเลี้ยงส่วนต่างๆของต้นไม้ จึงเกิดเป็นกระแสพลังธาตุไม้ เมื่อต้นไม้แห้งกรอบเกิดการสันดาปกำเนิดเป็นกระแสพลังธาตุไฟ และหลังจากพลังธาตุไฟมอดไหม้ลงย่อมทับถมกลับกลายเป็นกระแสพลังธาตุดินอีกครั้ง เป็นจุดเริ่มต้นวัฏจักรแห่งการก่อเกิดวงจรธรรมชาติสืบไป
 
ในทางกลับกันเมื่อมีวัฏจักรแห่งการก่อเกิดก็ย่อมมีวัฏจักรแห่งการทำลาย อาทิเช่น กระแสพลังธาตุไม้ มีรากเป็นเครื่องชอนไชทำลายกระแสพลังธาตุดิน กระแสพลังธาตุดินจะกักเก็บน้ำไว้ และจะแปรสภาพน้ำใสให้กลับกลายเป็นน้ำขุ่นได้ กระแสพลังธาตุน้ำสามารถดับความร้อนแรงกระแสพลังแห่งธาตุไฟ ส่วนกระแสพลังแห่งธาตุไฟสามารถหล่อหลอมธาตุทองให้ขึ้นเป็นรูปร่าง ตลอดจนกระแสพลังธาตุทองที่เปรียบเสมือนเลื่อยเหล็กโลหะสามารถตัดต้นไม้ให้เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
 
ทั้งหมดนี้จึงเป็นที่มาที่ไปในระบบวัฏจักรแห่งการก่อเกิดและการทำลายในระบบวงจรของกระแสพลังเบญจธาตุ
 
หากวิเคราะห์เหตุการณ์ระเบิดที่แยกราชประสงค์ องค์ศาลท่านท้าวมหาพรหมเอราวัณ อิงทิศราศี 巳山亥向 (จี๋ซัวไหเหี่ยง) ด้านหลังพิงทิศตะวันออกเฉียงใต้ ธาตุไม้ หันหน้าสู่ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ธาตุทอง มีผังก่อนฟ้า 先天卦(ไซทีข่วย) สื่อถึง 8 มือ และมีผังหลังฟ้า 後天卦 (เอ่าทีข่วย) สื่อถึง ฟ้า และช้าง ทั้งผังก่อนฟ้าและหลังฟ้า 先後天卦(ไซเอ่าทีข่วย) ต่างสื่อถึงองค์ท่านท้าวมหาพรหมเอราวัณ ที่พระนามเสมือน คชสาร 3 เศียรประจำองค์อมรินทร์องค์อินทร์เทวราชท่าน อีกทั้งลักษณะเฉพาะของพระองค์ฯท่านก็มี 4 พระพักตร์ 8 พระกรด้วยกัน
 
โดยเบื้องพระพักตร์ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือเปิดเป็นประตูหลัก อีกทั้งเป็นจุดตัดระหว่าง ถนนพระราม 1 กับ ถนนราชดำริ ถูกกระแสรถที่มาจากแยกเฉลิมเผ่า ที่ต้องการเลี้ยวขวาเข้าถนนราชดำริเชือดเฉือน ทั้งด้านหน้าที่เปรียบเสมือนหงส์แดง 朱雀(จูเฉียก) ต้องเป็นพลัง 陽(เอี๊ยง) ที่ควรเป็นพื้นที่โล่งโปร่งกลับมีเสาอาคารตึกสูงและสิ่งปลูกสร้าง ที่เปรียบเสมือนภูเขาที่เป็นพลัง 陰(อิม) ปิดกั้น อีกทั้งลักษณะรูปทรงมุมแหลมจากจุดบรรจบระหว่างเส้นทางการเดินรถไฟฟ้าราชดำริร่วมกับสุขุมวิทเป็นมุมแหลมสามเหลี่ยม ธาตุไฟ ทำร้ายทิศที่อยู่เบื้องหน้าพระพักตร์ขององค์ท่านท้าวมหาพรหมฯท่าน จึงเข้าหลักกฏเกณฑ์ 火星明堂 (ฮวยแชเหม่งตึ๊ง) กับ 火傷天門 (ห้วยเซียเทียงเมิ้ง) ที่เปรียบเสมือนประตูสวรรค์ประจำในตำแหน่งทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ธาตุทอง กลับถูกกระแสพลังธาตุไฟพิฆาตนั่นเอง
 
แล้วเหตุไฉนจึงเกิดเหตุระเบิดในปี เดือน วัน และเวลา ดังที่ปรากฏ
หากมองย้อนหลังกลับไปเมื่อปี 2549 ที่เคยเกิดเหตุสะเทือนขวัญบั่นทอนจิตใจต่อผู้ที่มีจิตศรัทธาต่อองค์ท่านท้าวมหาพรหมเอราวัณท่านมาแล้วครั้งหนึ่ง เนื่องด้วยอิทธิพลของกระแสพลังดาวจรผสมระหว่างปี เดือน วัน และเวลา มาร่วมสัมพันธ์กับจุดเปราะบางดังที่ได้กล่าวไปข้างต้นจึงแสดงผลปรากฏขึ้น จวบจนเมื่อวันจันทร์ที่ 17 เดือนสิงหาคม พ.ศ.2558 เวลา 18.55 น.ที่ผ่านมานี้ พลังดาวจรวนมาบรรจบครบรอบ จึงจุดปะทุชนวนกระแสพลังธาตุไฟให้ทำร้ายทิศตะวันตกเฉียงเหนือ 乾卦(เคี้ยงข่วย) ที่เป็นทุนเดิมอยู่แต่ก่อน อีกทั้งดาวปีจร 四綠(ซี๊เล็ก) ธาตุไม้ ที่หมายถึง สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ดาวเดือนจร 九紫(เก๋าจี้) ธาตุไฟ ที่หมายถึง ระเบิด ดาววันจร 三碧 (ซาเพ็ก) ธาตุไม้ ที่หมายถึง ต่อสู้ แย่งชิง และดาวเวลาจร 九紫(เก๋าจี้) ธาตุไฟ ที่หมายถึง ระเบิด จึงปรากฏเป็นภาพเหตุการณ์ร้ายกระทบต่อองค์ท่านท้าวมหาพรหมเอราวัน และผู้ที่กำลังกราบสักการะบูชาต่อองค์ท่านท้าวมหาพรหมเอราวัณท่าน
 
ความสูญเสียจากเหตุการณ์ระเบิดในครั้งนั้น ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติย่อมมีผู้สูญเสีย ผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือแม้แต่องค์ท่านท้าวมหาพรหมเอราวัณ ต่างล้วนเป็นเหยื่อจากกระแสวิบากพลังจักรวาลที่เป็นกฏแห่งความเป็นจริงอันสูงสุดของธรรมชาติว่า เมื่อสิ่งนี้มี สิ่งนี้จึงเกิด เมื่อมีลักษณะรูปทรงย่อมก่อเกิดพลัง ดั่งอักษรจีน 5 คำที่ว่า有形必有氣 (อู่เฮ๊งปิ๊กอู่ขี่) สอดคล้องกันระหว่างศาสตร์ฮวงจุ้ยและหลักคำสอนของพระพุทธองค์ท่าน