วิบากจากพญายักษ์


ชัยภูมิหรือสภาพแวดล้อมโดยรอบทั้งภายนอกและภายในตัวอาคาร จะปรากฏลักษณะรูปลักษณ์เป็นอย่างไร อิทธิพลของกระแสพลังนั้นๆไม่ว่าจะเป็นพลังมงคลหรือพลังวิบากตามรูปลักษณ์ปรากฏ ย่อมส่งผลกระทบต่อสถานที่แห่งนั้นๆได้เช่นกัน
 
ไม่ว่าจะเป็นวิบากทางถนน 路煞 (โหล่วสั่วะ) วิบากทางลม 風煞 (ฮวงสั่วะ) วิบากทางน้ำ 水煞 (จุ๋ยสั่วะ) หรือแม้แต่วิบากรูปลักษณ์ 形煞 (เฮ่งสั่วะ) ที่รูปทรงปรากฏให้เห็นเด่นชัด ก็ย่อมส่งผลกระทบต่อผู้อยู่อาศัยได้ทั้งสิ้น อย่างเช่น รูปปั้นยักษ์ สิ่งประดับตกแต่งเพื่อความสวยงาม แต่ก็สื่อถึงความน่ากลัว แลดูดุร้าย ไม่เป็นมงคล ก็จัดอยู่ในหนึ่งหลักกฎเกณฑ์ของวิบากรูปลักษณ์ 形煞 (เฮ่งสั่วะ) ด้วยเหมือนกัน
 
พุทธบัญญัติมีการจำแนกแยกประเภทชนออกเป็นหลายจำพวก เช่น เปรต อสุรกาย อสูร ยักษ์ มนุษย์ เทพ เทวดา โดยแบ่งเป็นลำดับชั้นตามผลแห่งบุญบาปจากการกระทำกรรมดีหรือกรรมชั่ว
 
“ยักษ์” ตามความเชื่อของคนไทย จึงอยู่ในกลุ่มพุทธบัญญัติอีกจำแนกหนึ่ง…จำพวกอมนุษย์ มีร่างกายใหญ่โต รูปร่างอัปลักษณ์ ตัวดำ ผิวหยาบกร้านคล้ายกระดาษทราย ผมหยิก ตาโปน มีเขี้ยว นิสัยดุร้าย ใจดำ อำมหิต ขี้หงุดหงิด ขี้รำคาญ บนพื้นฐานของความโลภ โทสะ โมหะ กามะ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นกิเลส ชอบของสดคาว โดยเฉพาะเนื้อมนุษย์และเนื้อสัตว์ มีฤทธิ์เหาะเหินเดินอากาศ อีกทั้งยังจำแลงแปลงกายได้ ชอบอาศัยอยู่ตามป่าเขา ในถ้ำ สามารถอยู่ในน้ำ บนดิน และบนอากาศ ประจำทางด้านทิศเหนือ
 
อย่างเช่น ประติมากรรม 12 พญายักษ์...ที่ประดิษฐานภายในอาคารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
โดยหวังให้เป็นสื่อตัวแทนทำหน้าที่ต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองที่มาเยือนแผ่นดินสยามจะได้สัมผัสกับงานวิจิตรศิลป์อันทรงคุณค่าดั่งศิลป์อมตะของประเทศที่เราคนไทยต่างภาคภูมิใจ
 
จากอดีตที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิแห่งนี้ เคยได้รับการจัดอันดับอยู่ 1 ใน 10 ท่าอากาศยานชั้นนำของโลก แต่ท้ายสุดก็หลุดจากอันดับร่วงหล่นลงมาอย่างน่าใจหาย จากหลายหลากปัญหาที่อุบัติขึ้นอย่างยากที่จะเชื่อ จนกลายเป็นประเด็นสังคมให้ต้องฉงนกับปฐมเหตุแห่งกระแสอาเพศ จากพลังอันเร้นลับของพญายักษ์ 12 ตน จนมีการปรับโยกย้ายให้ไปประดิษฐานยังสถานที่อื่น เพื่อสกัดกระแสพลังร้ายมิให้แผ่อิทธิพลต่อท่าอากาศยานแห่งนี้ตามที่ร่ำลือ
 
นอกเหนือจากการแก้ไขปรับเปลี่ยนสถานที่ประดิษฐานทั้ง 12 พญายักษ์จะแล้วเสร็จหรือไม่ก็ตาม แต่กระแสพลังธาตุที่ขัดแย้งระหว่าง 12 พญายักษ์ ที่ประจำทางทิศเหนือแต่ต้องตั้งผิงอิงทางทิศใต้ ซึ่งเป็นตำแหน่งทิศประธานของอาคาร ตลอดจนกระแสพลังวิบากรูปลักษณ์ 形煞 (เฮ่งสั่วะ) ก็ยังคงส่งผลกระทบต่อความวิบัตินั้นๆไว้ดังเดิม ตามดั่งคำที่ว่า 有形必有氣 (อู่เฮ๊งปิ๊กอู่ขี่) เมื่อมีรูปลักษณ์ย่อมก่อเกิดกระแสพลัง ดังนั้นก่อนที่จะออกแบบตกแต่งหรือประดับประดาปฏิมากรรมใดๆ ควรศึกษาหาข้อมูลความรู้ทางศาสตร์อื่นๆนอกเหนือจากศาสตร์ด้านใดด้านหนึ่งเพียงด้านเดียว เพื่อช่วยประกอบในการพิจารณาให้ละเอียดและรอบคอบรอบด้านยิ่งๆขึ้นก่อนการตัดสินใจ