เนื่องจากฮวงจุ้ยเป็นศาสตร์แห่งวิชาที่ได้ถูกรวบรวมขึ้นจากการสังเกตปรากฏการณ์ต่างๆ ที่มีความสัมพันธ์อย่างลงตัวกับหลักความสมดุลแห่งธรรมชาติไม่มากหรือไม่น้อยจนเกินไป โดยจะส่งผลกระทบระหว่างกันและกันอย่างกลมกลืน และยังคงเป็นเอกลักษณ์ในตัวเอง ดังเช่นตัวอย่าง ปรากฏการณ์ตามธรรมชาติน้ำขึ้นน้ำลง ไม่ว่าจะอยู่ในช่วงห้วงแห่งเวลาใด ไม่ว่าจากอดีตสู่ปัจจุบันตลอดจนไปอนาคตก็ตาม ปรากฏการณ์ธรรมชาติดังกล่าว ล้วนย่อมเกิดจากความสัมพันธ์ระหว่างแรงดึงดูดโลกกับดวงจันทร์ที่มีผลกระทำต่อกันและกันทั้งสิ้น
มนุษย์ก็เป็นเพียงเศษเสี้ยวหนึ่งของธรรมชาติที่มีความสัมพันธ์ต่อสรรพสิ่งในโลกใบนี้เช่นกัน ด้วยการส่งอิทธิพลของกระแสพลังต่อกันและกันอย่างเป็นระบบวงจร เหตุเพราะความสำเร็จในการคิดค้นพัฒนาวิทยาการใหม่ๆแล้วนำมาประยุกต์ใช้ ทำให้เกิดความเจริญรุดหน้าอย่างมากมาย จึงส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมดั่งที่เป็นอยู่ในทุกวันนี้ การเผาผลาญน้ำมันจำนวนมหาศาลจนเกิดปฏิกิริยาเรือนกระจก อุณหภูมิบนโลกใบนี้ร้อนขึ้น ที่ขั้วโลกน้ำแข็งละลายมากขึ้น ผลิตภัณฑ์ทางเคมีส่งผลกระทบต่อระดับโอโซนในชั้นบรรยากาศ แสงอัลตราไวโอเลตที่ส่องมายังพื้นโลกเกินระดับ การพัฒนาทางชีวภาพย่อมเปลี่ยนไป เกิดอันตรายต่อสรรพสิ่งมีชีวิตอย่างยากที่จะคาดเดาได้ในปัจจุบันและอนาคต จะเห็นได้ว่า มนุษย์ สิ่งแวดล้อม และสรรพสิ่งในธรรมชาติล้วนมีความสัมพันธ์ต่อกัน ส่งผลและมีอิทธิพลถึงกันและกันในรูปแบบของระบบเบญจธาตุ ในทางกลับกัน บรรดาสรรพสิ่งธรรมชาติในโลกใบนี้ อีกทั้งดวงดาวต่างๆในระบบสุริยจักรวาล อิทธิพลของกระแสพลังเบญจธาตุก็ย่อมส่งผลกระทบต่อมนุษย์ได้ด้วยเช่นกัน
ดังนั้นมนุษย์เราจึงย่อมหนีไม่พ้นระบบเบญจธาตุที่เป็นหลักกระแสพลังธรรมชาติทั้งสิ้น สัมพันธภาพระหว่างการก่อเกิดกับการทำลายในระบบกระแสพลังเบญจธาตุ ทุกสรรพสิ่งทั้งหลายย่อมอาศัยดิน ซึ่งนับว่าธาตุดินนั้นยิ่งใหญ่ที่สุดก็ว่าได้ แต่เมื่อพลังดินเกิดการสั่งสมเป็นเวลานานๆเข้า จากกระแสพลังธาตุดินจะก่อเกิดเป็นกระแสพลังธาตุทอง (เหล็ก โลหะ แร่ธาตุ) เมื่ออัดแน่นเนิ่นนานเข้าก็จะถูกปลดปล่อยเป็นลาวาออกมา ก่อเกิดเป็นของเหลวต่างๆที่เป็นกระแสพลังธาตุน้ำ เมื่อมีน้ำก็ก่อเกิดพืชและต้นไม้เพราะน้ำย่อมหล่อเลี้ยงส่วนต่างๆของต้นไม้จึงเกิดเป็นกระแสพลังธาตุไม้ จากต้นไม้เมื่อแห้งกรอบเกิดการสันดาปเป็นไฟ ก่อเกิดเป็นกระแสพลังธาตุไฟ จึงเป็นที่มาที่ไปในระบบวัฏจักรก่อเกิดของกระแสพลังเบญจธาตุ
ทางกลับกันเมื่อมีการก่อเกิดย่อมมีการทำลายได้ด้วยเช่นกัน อาทิเช่น ต้นไม้มีรากเป็นเครื่องชอนไชทำลายดิน ดินจะทำให้น้ำใสกลับกลายเป็นน้ำขุ่น น้ำสามารถดับไฟได้ ไฟหลอมทองให้ทองเป็นรูปเป็นร่าง ทองคือโลหะที่ตัดต้นไม้ให้เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย นับว่าเป็นวัฏจักรแห่งการทำลายล้างในระบบเบญจธาตุนั่นเอง
หลักกระแสพลังเบญจธาตุที่ใช้ประกอบในการวิเคราะห์พื้นชะตาชีวิตตามแบบต้นฉบับโหราศาสตร์จีนโบราณ ที่เรียกกันว่า “八字四柱” (โป๊ยหยี่ซี๊เถียว) สี่เสาแปดตัวอักษร คือ หลักการบริหารความสมดุลของพื้นชะตาของแต่ละบุคคลว่าธาตุสำคัญที่ต้องการนั้น คือธาตุใด เพื่อจะได้นำธาตุสำคัญดังกล่าวมาปรับเสริมเพิ่ม หรือปรับลดธาตุในพื้นชะตาให้เกิดความสมดุลยิ่งๆขึ้นไป อาทิ เช่น
ต้องการเสริมธาตุไม้